การประชุมที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม แต่ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือ ห้องประชุมเสียงก้อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสื่อสารและประสิทธิภาพการทำงาน สำหรับใครก็ตามที่วันนี้ ห้องประชุมในออฟฟิศกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเสียงก้องสะท้อน บทความนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้แนวทางการแก้ปัญหาและปรับปรุงห้องประชุมอย่างมืออาชีพ เพื่อสร้างบรรยากาศการประชุมที่สมบูรณ์แบบ
เข้าใจสาเหตุของปัญหาห้องประชุมเสียงก้อง
ก่อนจะเริ่มการปรับปรุง เราต้องเข้าใจก่อนว่าทำไม ห้องประชุมเสียงก้อง จึงเป็นปัญหาที่พบบ่อย สาเหตุหลักมาจากการสะท้อนของคลื่นเสียงที่กระทบกับพื้นผิวแข็งภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นผนัง พื้น หรือเพดาน ทำให้เกิดการก้องกังวานที่รบกวนการสนทนา และกิจกรรมการใช้เสียงในห้องประชุม
ผลกระทบของเสียงก้องต่อการประชุม
หลายคนอาจรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนแก้ไขเลยก็ได้ แต่ในความเป็นจริงการปล่อยให้ห้องประชุมเสียงก้องต่อไปนั้น ส่งผลเสียอย่างมาก โดยเมื่อ ห้องประชุมเสียงก้อง ส่งผลกระทบต่อการใช้งาน ดังต่อไปนี้
• การสื่อสารไม่ชัดเจน
• ผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้ความพยายามในการฟังมากขึ้น
• เกิดความเหนื่อยล้าระหว่างการประชุม
• ประสิทธิภาพการประชุมลดลง
• ภาพลักษณ์ของบริษัทถูกลดทอนความเป็นมืออาชีพ หากต้องใช้ห้องประชุมรับแขกจากภายนอก
การประเมินสภาพห้องประชุมก่อนปรับปรุง
การเริ่มต้นปรับปรุงระบบอะคูสติกที่ดีต้องเริ่มจากการประเมินสภาพปัจจุบันของห้องก่อน เพื่อวางแผนการปรับปรุงที่เหมาะสม โดยแนวทางในการประเมินสภาพห้องประชุมเสียงก้องก่อนปรับปรุงนั้น จะพิจารณาจากประเด็นสำคัญ ดังต่อปนี้
• ขนาดและรูปทรงของห้อง
• วัสดุที่ใช้ในห้องปัจจุบัน
• ตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์
• ระดับความก้องของเสียง
การวัดระดับการก้องของเสียง
หากต้องการแก้ไขปัญหาเสียงก้องห้องประชุมให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามเป้าหมายแล้ว “การวัดระดับเสียง” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะจะทำให้เราทราบว่าห้องประชุมมีค่าความก้องสะท้อนอยู่ที่เท่าไร อันจะนำไปสู่การวางแผนติดตั้ง “วัสดุซับเสียง” หรือวัสดุอะคูสติกที่มีความสามารถในการดูดซับเสียงก้องสะท้อน ได้เหมาะสมเพียงพอต่อการลดระดับความก้องของเสียงห้องประชุมลงได้ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ในการวัดระดับเสียงก้องสะท้อนนั้น จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการวัดระดับเสียงที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และควรอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียงก้องสะท้อนโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถอ่านค่าและวางแผนในการแก้ไขปัญหาเสียงก้องห้องประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องวัดระดับเสียง Omni Directional Power Amplifier
วิธีปรับปรุงระบบอะคูสติกห้องประชุม
แนวทางในการการปรับปรุงระบบอะคูสติกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงก้องห้องประชุมนั้น ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายด้าน ดังต่อไปนี้
1. การเลือกวัสดุซับเสียงที่เหมาะสม
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกใช้ “แผ่นซับเสียง” ที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการดูดซับเสียงก้องสะท้อนได้ดี โดยตัวอย่างแผ่นซับเสียงที่ได้รับความนิยม ได้แก่ แผ่นซับเสียง SCG รุ่น Cylence Zandera ซึ่งมีค่าการดูดซับเสียง หรือค่า NRC สูงถึง 0.75 อีกทั้งยังเป็นผนังตกแต่งที่หุ้มด้วยผ้าที่มีลวดลายสีสันหลากหลาย ทำให้นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาเสียงก้องสะท้อนห้องประชุมได้แล้ว ยังถือเป็นการตกแต่งห้องประชุมให้สวยงามไปด้วยพร้อมกันในคราวเดียว
แผ่นซับเสียง SCG รุ่น Cyelence Zandera ตัวช่วยแก้ไขปัญหา
ห้องประชุมเสียงก้อง
2. ตำแหน่งการติดตั้งวัสดุซับเสียงที่ถูกต้อง
แม้จะเลือกใช้แผ่นซับเสียงที่มีคุณภาพแล้ว แต่หากวางแผนติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ติดตั้งไม่กระจายทั่วพื้นที่ห้องมากพอ ตลอดจนวางแผนใช้ปริมาณแผ่นซับเสียงน้อยเกินไป ก็จะไม่สามารถควบคุมเสียงก้องสะท้อนในห้องประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเองจึงยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า การรีโนเวทห้องประชุมเสียงก้อง ให้กลายเป็นห้องประชุมที่ควบคุมเสียงก้องสะท้อนได้ดีนั้น จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ
3. การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัว
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมภายในห้องประชุม มีส่วนช่วยลดการสะท้อนของเสียงได้เช่นกัน ยกตัวอย่างแนวทางการเลือกและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยลดปัญหาเสียงสะท้อนได้ เช่น การเลือกโต๊ะประชุมที่มีพื้นผิวด้าน เลือกใช้เก้าอี้บุนวมหนา และการจัดวางตู้เอกสารที่มีพื้นผิวไม่สะท้อนเสียง ไว้ภายในห้องประชุม เป็นต้น
4. การปรับปรุงพื้นห้องให้ช่วยซับเสียงก้องได้
อย่างที่ทราบกันแล้วว่า เสียงสะท้อนภายในห้องประชุมนั้น เกิดจากการที่เสียงตกกระทบพื้นผิวภายในห้อง ดังนั้น พื้นห้องประชุมจึงเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการก้องสะท้อนเพิ่มมากขึ้นได้ ดังนั้น จึงเป็นจุดที่ควรดูแลจัดการแก้ไขด้วยเช่นกัน โดยแนวทางการปรับปรุงพื้นห้องประชุมเพื่อลดเสียงก้องสะท้อน นั้น สามารถทำได้ด้วยการติดตั้งพรมทั้งห้อง ใช้แผ่นยางรองพื้น หรือเลือกวัสดุปูพื้นที่มีความสามารถในการดูดซับเสียงสูง เป็นต้น
5. เครื่องเสียงในห้องประชุมต้องมีคุณภาพ
นอกจากระบบอะคูสติกที่ใช้ในการควบคุมเสียงก้องสะท้อนแล้ว เครื่องเสียงที่ใช้ในห้องประชุม ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจุบันที่ช่วยทำในการแก้ไข ห้องประชุมเสียงก้อง ได้ โดยแนวทางในการเลือกใช้เครื่องเสียงสำหรับห้องประชุม ได้แก่ เลือกใช้ไมโครโฟนคุณภาพสูง ที่มีระบบตัดเสียงรบกวนในตัว มีความไวในการรับเสียงที่เหมาะสม และมีการจับทิศทางเสียงที่แม่นยำ ในที่ลำโพง ก็ควรเลือกอย่างพิถีพิถัน ให้เป็นลำโพงคุณภาพ มีการกระจายเสียงที่สม่ำเสมอ ปรับเสียงได้อัตโนมัติ และติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นต้น
6. ประเมินผลหลังการปรับปรุง
หลังปรับปรุงระบบอะคูสติกภายในห้องประชุมเรียบร้อยแล้ว การประเมินผลหลังการแก้ไขถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพื่อพิสูจน์ว่าสามารถควบคุมแก้ไขปัญหาห้องประชุมเสียงก้องได้จริงหรือไม่ โดยแนวทางในการตรวจสอบประเมินการปรับปรุงนั้น ทำได้โดย วัดระดับความก้องสะท้อนของเสียงภายในห้องประชุมอีกครั้ง ทดสอบคุณภาพเสียงภายในห้องประชุม และสำรวจความพึงพอใจในการใช้งาน หากผ่าน 3 ขั้นตอนนี้ได้ ก็ถือได้ว่าการรีโนเวทแก้ไขเสียงก้องห้องประชุมนั้นประสบความสำเร็จ
สรุป
การแก้ปัญหา ห้องประชุมเสียงก้อง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับองค์กร การปรับปรุงอะคูสติกที่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การสื่อสารชัดเจนขึ้น แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม ด้วยการวางแผนที่ดี เลือกใช้วัสดุซับเสียงที่เหมาะสม และการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ห้องประชุมของคุณมีคุณภาพเสียงที่ดีอย่างยั่งยืน
สำหรับหน่วยงานหรือองค์กรใด ที่มีปัญหาห้องประชุมเสียงก้อง และอยากรีโนเวทแก้ไข เพื่อควบคุมเสียงก้องสะท้อนให้ดีขึ้น สามารถขอคำแนะนำทีมงาน Acoustic Expert ได้ฟรี ผ่านช่องทางออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานเรามีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาเสียงพร้อมให้คำปรึกษา นัดหมายสำรวจหน้างานจริง และวางแผนนออกแบบติดตั้งระบบซับเสียงให้ได้ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด